วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Facebook game guide




อยากรู้วิธีการเล่นเกมส์ต่าง ๆ บน Facebook กรุณา Click here ?

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

Facebook เพิ่มความสามารถ Facial Recognition เจอหน้าเพื่อนเมื่อไหร่ Facebook แท็กชื่อให้เลย


จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Facebook จำหน้าเพื่อนๆของเราได้?
Face Recognition เป็นความสามารถใหม่ของ Facebook ครับ ความสามารถนี้ใช้สำหรับจดจำหน้าตาของเพื่อนเราครับ อธิบายให้เห็นภาพก็คือ เมื่อเราอัพโหลดรูปถ่ายที่ถ่ายกับเพื่อนๆ นาย A, B, C เมื่ออัพโหลดเสร็จ Facebook ก็จะประมวลผลแยกแยะว่าในรูปนี้มีหน้าใครบ้างก็จะแยกได้ว่าในรูปมี  นาย A, B, C พร้อมเตรียมติด Tag ชื่อให้เลยครับ (ความสามารถแบบเดียวกันนี้มีให้ใช้งานในโปรแกรม iPhoto ของเครื่อง Mac และโปรแกรม Picasa ของ Google มีใช้บน Windows ครับ)
ถึงแม้ว่าเราเกือบจะเรียกมันว่าเป็น Tag ชื่อในรูปแบบกึ่งอัตโนมัติ แต่ Facebook ก็ให้สิทธิ์เราในการอนุญาติที่จะไม่ “เสนอชื่อ” ในกรณีที่เพื่อนเราอัพโหลดรูปที่มีหน้าเราเข้าไปครับ (แต่คาดว่าการห้าม Tag ก็คงยังทำไม่ได้เหมือนเดิม)

Facebook ปรับปรุงหน้า Profile ใหม่!! มาลองใช้กันเถอะ


ตอนนี้ที่อเมริกาเป็นวันอาทิตย์ข่าวต่างๆ ในวงการ Android จึงดูเงียบเหงาไปหมด แต่มีข่าวหนึ่งที่เด่นกว่าใครในวันนี้ก็คือข่าวการเปิดตัว Profile รูปแบบใหม่ของทาง Facebook นั่นเอง ไหนๆ Facebook ก็เป็นฐานผู้ใช้งานหลักของ ThaiDroidUpdate อยู่แล้ว คงจะมีหลายๆ คนในนี้สนใจข่าวนี้อยู่แน่นอน เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าวันนี้ Facebook เค้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
เมื่อเช้าที่ผ่านมาคุณ Mark Zuckerberg ดาราใหญ่ของเราได้ออกมาโชว์ตัวในรายการ “พบ Mark Zuckerberg ใน 60 นาที” ซึ่งแน่นอนว่าใน 60 นาทีนี้เราก็ได้เห็นอะไรมากมายเหมือนนั่งฟังสัมมนา 3 ชั่วโมงเหมือนเดิม (ก็พูดเร็วซะขนาดนั้นนี่) เนื้อหาหลักๆ ที่คุณ Zuckerberg นำมาพูดในวันนี้คือ เรื่องของหน้า Profile ใหม่บน Facebook ที่มีการปรับปรุงใหม่ให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูคลิปเปิดตัวกันเลยดีกว่า

จะเห็นว่ารูปแบบของ Profile ใน Facebook มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเลยทีเดียว หากจะแบ่งเป็นหัวข้อๆ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างนั้น ก็สามารถแบ่งได้ตามนี้เลยครับ

เราคนใหม่ (A New You)


ในหน้า Profile หลักจะมีข้อมูลส่วนตัวของเราแสดงขึ้นเล็กน้อยที่บนสุดของหน้าจอ เพื่อบอกว่าเราทำงานที่ไหน เรียนที่ไหน อาศัยอยู่ที่เมืองไหน เกิดวันไหน และมีเพิ่มในส่วนของภาษาที่เราพูดด้วย เป็นข้อมูลสั้นๆ บนหัวของหน้า Profile ซึ่งเราสามารถเข้าไปแก้ไขรูปแบบเองได้

รูปภาพแนะนำตัว (A Photo Introduction)




ความสามารถนี้คิดว่าหลายๆ คนอาจจะไม่ชอบซักเท่าไหร่ มันคือความสามารถในการแสดงภาพของเราที่ถูกเพื่อนติด Tag ให้ล่าสุด ขึ้นบนหน้า Profile บางคนอาจจะถูกเพื่อน Tag รูปหน้าตัวเองตอนขี้เหร่ขึ้นมาให้ หากรูปเหล่านั้นขึ้นมาแสดงบนหน้า Profile ของตัวเองที่มีรูป Avatar ดูดีมากๆ แล้ว Rating อาจจะตกไปไม่น้อย

ระบบเมนูนำทางที่จัดการได้ง่ายขึ้น (More Organized Navigation)




ตอนนี้ก็จะไม่มี Tab ของเมนูอีกต่อไป เพราะเมนูทั้งหมดจะถูกย้ายมาไว้เป็น Link ใต้รูปภาพ Profile ของเรา นอกจากนี้ ภายใต้ส่วนของข้อมูลส่วนตัว (Info) นอกจากเราจะสามารถเพิ่มส่วนของปรัชญาของตัวเอง รวมทั้งมุมมองทางศาสนา, มุมมองทางการเมือง และคำพูดที่ชื่นชอบ เรายังมีช่องใส่ข้อมูลใหม่ล่าสุด “คนที่เป็นต้นแบบของคุณ” เพิ่มเข้ามาให้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน / สถานที่เรียน (More Detailed Work/Education Info)




เราสามารถใส่ข้อมูลการทำงานเพื่อบอกให้คนอื่นรู้ได้มากขึ้นว่าเราทำอะไรบ้าง รับผิดชอบ Project ไหนอยู่ หรือว่าถ้าเป็นคนที่เรียนอยู่ เราสามารถบอกได้ด้วยว่าเราลงเรียน Class ไหนบ้าง (แต่ไม่ Add ก็ดีแล้วล่ะ ข้อมูลส่วนตัวไปหน่อย เดี๋ยวโดนคนตามเจอ) นอกจากนี้ เรายังสามารถเพิ่มรายชื่อเพื่อนร่วมงาน หรือว่าเพื่อนร่วมห้องเข้าไปได้อีกด้วย ซึ่งน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยากจัดกลุ่ม Contact ไว้ในที่ที่เดียวกัน

ระบบความสนใจ ที่ทำให้เห็นภาพมากขึ้น (More Visual Interests)




จะไม่ให้เห็นภาพได้ยังไง ก็เล่นมีภาพประกอบเข้ามาให้เราดูด้วยเลยซะอย่างงั้น ใครไม่เห้นภาพก็คงจะตาบอดแล้วล่ะ แต่งานนี้ใครที่เครื่องหรือเน็ตไม่แรง อาจจะต้องร้องครวญครางก็ได้ เพราะจะต้องโหลดรูปเพิ่มขึ้นมาอีกหลาย 10 รูปเลยทีเดียว อ้ะ!! ลืมบอกไปในระบบความสนใจนี้ Facebook ได้เพิ่มหัวข้อกีฬาเพิ่มเข้ามาอีกด้วยแล้วนะ

จัดระเบียบเพื่อนของคุณ (Group Your Friends)




ในขณะที่เรามีระบบเพื่อน, ความสัมพันธ์ และระบบเดิมอื่นๆ แล้ว ตอนนี้เราสามารถจัดกลุ่มเพื่อนของเราออกเป็นหมวดหมู่ได้อีก เช่น กลุ่มเพื่อนแท้ (Best Friends), กลุ่มเพื่อนร่วมงาน (Work Buddies) ฯลฯ กลุ่มพวกนี้จะถูกจัดอยู่ในประเภทเดียวกันกับกลุ่มความสัมพันธ์ในครอบครัว และจะถูกแสดงในหน้า Profile หลักของเราด้วยครับ

ลูกเล่นใหม่ของ Facebook ที่สามารถจับลากวางภาพที่ไหนก็ได้


เว็บไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Facebook เตรียมเพิ่มความสามารถใหม่ให้กับการใช้งานคุณสมบัติรูปถ่ายในหน้า FB ของตัวเองด้วยออปชั่นการลาก-วางรูปที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเรียงรูปในอัลบั้มต่างๆตามแต่ใจจะไขว่คว้า นอกจากนี้ยังมีการเสริมฟังก์ชั่นอัพโหลดรูประดับความละเอียดสูงเป็นอีก หนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายรูปผ่านกล้องระดับความละเอียดมากๆที่ ไม่อยากให้ภาพที่ไปปรากฏบนหน้า FB ดูแตกเป็นลายงาอย่างที่เคยเป็นมาด้วย เช่นเดียวกับระบบการดูรูปแบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาด้วยซึ่งคุณสามารถพลิกหน้าชมไปมาโดยตรงไม่ต้องคอยมานั่งกด Nextๆๆๆ อีกต่อไป สำหรับในเวลานี้ยังไม่มีการยืนยันออกมาว่าคุณสมบัติเหล่านี้จะถูกเพิ่มเข้ามาให้ผู้ใช้งาน Facebook ได้ใช้งานกันจริงๆเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าเมื่อมีวิดีโอคลิปมายืนยันความคืบหน้าขนาดนี้แล้วก็รับรองได้เลยว่าคงอีกไม่นานเกินรอแน่นอน!

อัพเดท Facebook Profile แบบใหม่ พร้อมแชร์ข้อมูลได้ง่ายขึ้น


ปล่อยให้อัพเดทกันแล้ว สำหรับ Facebook Profile แบบใหม่ มาพร้อมความสามารถใหม่ ทำให้เราเห็นสถานะทั้งหมด เช่น ทำอะไรอยู่ เรียนที่ไหน เกิดวันไหน… ไว้ส่วนบนสุด, แสดงรูปจากอัลบั้มได้ 5 รูป, แสดงเพื่อนทั้งหมดในแนวตั้งเพื่อให้เห็นรูปที่ใหญ่ขึ้น

และส่วนของ “Status Photo Link Video” ที่จะทำให้เราแชร์ข้อมูลกับเพื่อนๆ เราได้ง่ายขึ้น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและอัพเดทกันได้แล้วที่ facebook.com/profile
แบบใหม่ :

แบบเก่า :

Facebook เพิ่มความสามารถใหม่ ไฉไลกว่าเดิม


Facebook ได้เพิ่มการใช้งานให้เราสามารถกรองเนื้อหาต่างๆ ในหน้า News Feed ของเราได้ โดยก่อนหน้านี้ Facebook ได้เปิดให้เราเลือกกรอง 2 วิธีด้วยกัน ก็คือ 1. “Top News” ซึ่ง Facebook จะใช้หลักคิดคำนวนแสดงเฉพาะเรื่องที่น่าสนใจ และ 2. “Most Recent” ซึ่งจะแสดงทั้งหมดที่เพื่อนของเราเขียนเอาไว้


 ตอนนี้ Facebook ได้เปลี่ยนทางเลือก “Most Recent” ให้เป็น เมนู drop down ลงมา ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่า จะดู Games, Status Updates, Photos, Links หรือ Pages
นอกจากนี้ เรายังเลือกได้ว่า เราจะดูเนื้อหาเฉพาะจากกลุ่มที่เรากำหนดไว้ก็ได้ และเรายังตั้งค่า Live Feed ได้ว่า เราต้องการจะดูเนื้อหาของเพื่อนคนไหน มาก หรือน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในกรองเนื้อหาแบบนี้ ยังไม่ได้เปิดให้กับผู้ใช้งานทุกคน .. ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไป

Facebook เว็บไซต์อันดับ 1 ของโลก


นอกจากรายงานข่าวการเป็น Person of the Year ประจำปี 2010 โดยนิตยสาร Time ตามมาด้วยข่าวฮือฮาสำหรับการมาเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมงานแต่งงานของมือขวาของ Mark Zuckerberg แล้ว ข่าวใหญ่ที่น่าจะทำให้ซีอีโอผู้นี้แฮปปี้ตั้งแต่ต้นปี 2011 นั่นก็คือ การที่มีรางานข่าวออกมาว่า Facebook สามารถโค่นบัลลังก์เว็บไซต์ยอดฮิตบนอินเทอร์เน็ตจากแชมป์เก่าอย่าง Google ได้เป็นผลสำเร็จแล้ว

Facebook เว็บไซต์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาบนโลกได้เพียง 6 ปี แต่สามารถมีจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 500 ล้าน มันทำให้ผู้ใช้ได้มีโอกาสพบปะญาติพี่น้อง และเพื่อนเก่าสมัยเรี่ยนได้ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมแห่งนี้ ความฮอตของ Facebook ยังทำให้แนวโน้มการเติบโตของผู้ใช้ออนไลน์สูงขึ้น แถมยังสร้าประสบการ์ณเชื่อมต่อของสังคมแบบใหม่บนโลกออนไลน์อีกด้วย นอกจากการสร้างความสัมพันธ์ในรูปแบบดังกล่าวแล้ว เครือข่ายสังคมออนไลน์ยังจะส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคจากคอนเท็นต์ไปสู่งอีคอมเมิร์ซด้วยการแชร์ความคิดเห็น และเครื่องมือในการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซดังๆ อย่าง Amazon, Etsy และ Ebay อีกด้วย ยิ่งทำให้เครือข่ายสังคมออนไลน์มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น (ไม่ใช่แค่กระแสอย่างที่นักวิเคราะห์หลายคนพูดถึงก่อนหน้านี้)

และเมื่ออินเทอร์เน็ตกลายเป็นเครือข่ายสังคมมากขึ้น Facebook มองเห็นโอกาสในการใช้แทรฟฟิกในการสร้างมูลค่าในทางธุรกิจด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มโฆษณา โดยการเพิ่มคุณสมบัติ Fanpage และเตรียมก้าวไปสู่การเติบโตในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งนักวิเคราะห์เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า F-Commerce และด้วยโมเดลธุรกิจที่เกิดขึ้นส่งผลให้ Facebook สามารถสร้างรายได้ในปี 2009 ได้สูงถึง 800 ล้านเหรียญฯ ส่วนตัวเลขผลประกอบการในปี 2010 ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด แต่ก็มีการคาดการณ์กันว่า มันจะสูงกว่าปีก่อนอย่างก้าวกระโดด แต่หากเปรียบเทียบกับผลประกอบของการของ Google แล้วยังห่างชั้นกันมากทีเดียว เนื่องจาก Google ทำรายได้สูงถึง 24 พันล้านเหรียญฯ (ไตรมาสละ 6 พันล้านเหรียญฯ)

ในโลกโฆษณาวันนี้ แบรนด์ชั้นนำกำลังพยายามใช้ Facebook ในการสร้างชุมชนของผู้บริโภคที่พูดถึงเกี่ยวกับแบรนด์ของตน ซึ่งปัจจุบัน Facebook สามารถเก็บค่าบริการจากเหล่าแบรนด์ดังทีต้องการทำแคมเปญจ์ใน Fanpage ได้สูงถึง 20,000 เหรียญฯ (ประมาณ 600,000 บาท) ซึ่งตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ใช้ และแบรนด์ต่างๆ ที่จะกระโดดลงมาเล่นในตลาดนี้ “นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญมากในประวัติศาสตร์ของอินเทอร์เน็ต” Lou Kerner นักวิเคราะห์โซเชียลมีเดีย “เรากำลังย้ายจากเว็บที่มี Google เป็นศูนย์กลางไปสู่เว็บที่มีผู้ใช้ (People-centric web) เป็นศูนย์กลาง” ข้อมูลจาก SharesPost ระบุว่า Facebook มีมูลค่า และการเติบโต สูงถึง 45 พันล้านเหรียญฯ แม้จะเล็กกว่า Google ถึง 4 เท่า แม้ Facebook จะขึ้นแท่นเว็บไซต์ยอดนิยมในโลกอินเทอร์เน็ตแทนที่ Google ได้แล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไปคือ มันจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ หรือไม่? และนั่นคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของ Facebook ในปี 2011
Code by : paid web directory